2019

70’S lover ทริปมาเลเซีย ep.2 จบบริบูรณ์

1 มกราคม สวัสดีปีใหม่

วางแผนคือดี แต่บางทีก็นอกเส้นทาง

ใครแฮ้งค์จากเคาท์ดาวน์ก็นอนหลับพักผ่อนไปครับ นัดกันตอนเย็นๆ ซึ่งรถขบวนน่าจะเสร็จแล้ว บ่ายๆ เพื่อนเราจาก Ride and Pride ก็มีมาสมทบจาก กทม. 3 ลำครับ พรุ่งนี้เขาจะไปยะโฮแล้วเข้าสิงคโปร์ ผมกับเสี่ยและตี๋แต่งตัวเสร็จก็เดินไปทางวัดฮินดูครับ ไปร่วมงานปีใหม่ฮินดู(ผมคิดเอาเอง)

ร้องรำทำเพลงรอขบวนเสร็จเราก็เดินไปเต้นไปรอบๆ เมืองเก่าครับ สนุกดีเหมือนกัน ไอ้ตี๋ได้รับแจกอาหารเทพมาหลายห่อ(หวานเกิ้นนนน) ประชากรที่นี่น่ารักมากครับ ไอ้เสี่ยถึงกับบอก “ที่จริงพวกเราไม่ต้องกลับไทยก็ได้นะ หาเมียแขกที่นี่สักคนถ้าจะดี”
ฝนเริ่มมาบางๆแล้ว เรามัวสนุกกันจนลืมดูว่าพายุเข้าอ่าวไทย!!!

“ที่จริงพวกเราไม่ต้องกลับไทยก็ได้นะ หาเมียแขกที่นี่สักคนท่าจะดี ”

เสี่ยบอส

2 มกราคม เตรังกานู

พายุปาบึกอาละวาดแล้ว
เดี๋ยวเจอกัน

ฝนทำไมมันตกแปลกๆ ทั้งวันเลยว่ะ เราคุยกัน เปิดเนตดูถึงรู้ว่ามีพายุเข้าทางเวียดนาม เวียดนาม……..เกี่ยวไรกับมาเลย์ว่ะ 5555 เราไม่สนใจ สตาร์ทรถขี่ออกมาจากมะละกา ขี่เข้าหาพายุ เรามาจากฝั่งตะวันตกมุ่งสู่เตรังกานูคือรัฐทางด้านตะวันออกของมาเลย์

ชุ่มช่ำตลอดทาง

เส้นทางนี้คือผ่านฝั่งตะวันออกทั้งหมด เส้นทางก็แปลกๆ หน่อย(กูเกิ้ลแมพพามา) คือมีแต่สวนยางกับสวนปาล์ม กับฝนตก ยิ่งขี่มาใกล้ทะเลยิ่งตกหนัก ฝนผมไม่กลัวนะผมกลัวลม(แน่นอนมีลมด้วย อย่างแรง)

ไม่ใช่แค่ใส่ขยะ

พอแชร์ทางที่จะไปขึ้นหน้าเฟสบุ๊คมีแต่คนมาบอก ระวังพายุนะครับ ผมกับเสี่ยหัวเราะในใจ พายุอยู่เวียดนามเกี่ยวไรกับมาเลย์(ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด) วันนี้ขี่หนักหน่อยลุยฝนกับลมจากมะละกาไปเตรังกานูเกือบ 500 โล

เหล่า FC ในเมืองไทยให้ข้อมูลปาบึกผ่านออนไลน์ตลอด
สมาชิกในก๊วน โตมาด้วยกัน

เสื้อกันฝนกระจาย กล้องโกโปรกระเด็น รถเป็นเหล็กทนได้สบาย แต่คนนี่เริ่มไม่สบายละ ทำโอกันกว่าจะมาถึงที่พักก็มืด ฝนตกยังกับฟ้ารั่ว ไม่สามารถทำความเร็วกันได้เลย ผมอาบน้ำอุ่น กินยาดักไว้แล้วเข้านอนทันที คนอื่นสภาพไม่ได้ต่างกัน

3 มกราคม จะไปเบตง……แต่ไปไม่ถึง

เราตื่นเช้ามาหาอะไรกิน แล้วปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางกันอยู่พอประมาณ ทีมงานแต่ละคนก็ไปหาชุดกันฝน เพราะรู้ตัวแล้วว่าเราโดนหางพายุปาบึกแน่นอน(ดูจากทิศทางการเคลื่อนตัวของพายุ) จะจอดรอไม่ขี่ต่อ ก็จองตั๋วกลับเชียงใหม่ไว้แล้ว คิดไปคิดมาลุยฝนไปเข้าไทยที่เบตงดีกว่า อีก300-400โลเองไม่ไกล

พูดถึงเตรังกานูก่อน ผมชอบนะเมืองมันเงียบสงบดี อาหารการกินก็ไม่ได้เลวร้าย ผู้คนอัธยาศัยดีมาก(โดนเฉพาะชาวมาเลย์มุสลิม) เราขี่รถลุยฝนมาตลอดทาง กูเกิ้ลแมพ(อีกแล้ว)พาผมผ่าอุทยานแห่งชาติของมาเลย์มา หมอกก็ลงหนาวก็หนาวเปียกก็เปียก(หนาวกว่าคาเมรอนไฮแลนด์อีกครับ)

ทีมงานถึงกับต้องกระดกเหล้าเพียวเพื่อแก้หนาว ขี่จนค่ำเรายังไม่ถึงไหน เราข้ามแดนไม่ทันแน่ๆ เลยเลี้ยวเข้าเมืองเกริก(Gerik) เพื่อพักนอนก่อน(สภาพร่างกายไม่ไหวแล้วจริงๆ แล้วพรุ่งนี้ค่อยหวดข้ามแดน)

4 มกราคม OK เบตง

ตื่นสายหน่อยครับวันนี้เพราะขี่อีกไม่ไกลละ เราแวะกินบะหมี่ น้ำชาเพิ่มพลัง ตัดโซ่รถ เช็คน้ำมันเครื่องกันที่อู่เล็กๆ ในเกริก เราขี่ในหุบเขามาประมาณ 75 กิโลก็ถึงเบตง แวะซื้อสุราบุหรี่ปลอดภาษีเพื่อเป็นสเบียงแล้วก็เข้ามาพักในโรงแรมของวิทยาลัยอาชีพของเบตง(พอดีเจอพี่อาจารย์ที่ด่านพามา) ที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านครับ  

เข้ามาเบตงเหมือนสวรรค์ครับ เราหากินผัดกระเพรา ก๋วยเตี๋ยว(กินเหมือนคนตายอดตายอยาก) ตกกลางคืนก็เอาสุราไปต่อที่ร้าน The tunnel (เจ้าของร้านพี่เอ็ดเป็นคนเหนือมาได้เมียอยู่ที่ยะลา) ดื่มกินได้สักพักก็มีน้องๆ จากยะลามาสมทบ เราเดินเที่ยวละแวกนั้น ก่อนกลับที่พักเพื่อพักผ่อน

5 มกราคม ขี่เรื่อยเปื่อยมานอนสงขลา

เราเหลือเวลาอีก 1 วันก่อนจะขึ้นเครื่องและขนส่งรถกลับ ก็นัดแนะกันว่าไปสงขลากันดีกว่า มีถนนวัฒนธรรม(มารอบนี้เสพวัฒนธรรมให้เอียนกันไปข้างหนึ่ง) เราขี่รถมากันเรื่อยๆ เส้นทางสวยงามตัดกับด่านตำรวจทหารเป็นระยะๆ เราแวะไหว้ศาลหลักเมืองยะลา(เสี่ยลืมกระเป๋าไว้ในศาลเกือบเป็นเรื่อง)

ผมขี่ไปก็แอบคิดเสียดายไป ถ้าไม่มีเหตุก่อการร้าย 3 จังหวัดใต้นี่จะน่าท่องเที่ยวขนาดไหน พื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากร ผู้คนมีวัฒนธรรมอาหารการกินที่แตกต่างแต่น่าสนใจ

ขี่จนเข้ามาถึงเมืองสงขลา เราพักกันใกล้ๆ บ้านป๋าเปรม วันนี้โชคดีมาเจอถนนคนเดินสงขลาพอดี จอดรถเก็บข้าวของเครื่องใช้เสร็จเราก็เดินออกมาหาอะไรทำกัน สงขลายังไงก็เป็นเมืองน่ารักน่าเที่ยวสำหรับผมเสมอ อาหารการกินไม่แพง มีความเจริญมีธรรมชาติ มีวัฒนธรรม ทุกอย่างมีครบแบบที่เมืองท่องเที่ยวควรจะมี 

เรากินนั่นกินนี่เสร็จพวกขี้เหล้าก็งัดเอาเหล้าที่เหลือมาดื่ม แล้วก็นอน  ตื่นเช้ามาเราขี่รถเข้าไปถนนนางงามเพื่อกินอาหารเช้ากับแวะถ่ายรูป ไอ้พวกอยากถ่ายหาดสิมิหลาก็แยกย้ายกันไปถ่ายไปดู ก่อนอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวปิ๊กเชียงใหม่บ้านเฮา

จบละครับทริปเบาๆ ของเรา ขี่รถรอบนี้สนุกครบรสชาติครับ(แต่จริงๆมันก็สนุกทุกทริปนะ) ถ้าเป็นทีมอื่นคงทะเลาะกันเละละครับ แต่พอดีพวกเราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยขาสั้น จะด่าจะทะเลาะกันก็แป๊บเดียวครับ  ส่วนรถ ผมว่ารถพิกัดกลางๆ นี่แหล่ะครับดี ไม่เทอะทะ ไม่ยุ่งยาก ระบบบ้านๆ ขี่ไปแบบไม่ต้องเสียดายไม่ต้องคิดมาก

“รถอะไรก็ไปได้ครับ เพื่อนกับใจผมว่าสำคัญกว่ารถครับ “


Rachan Salidkaew
About admin